พีธีมอบรางวัลผลงานวิจัยทางทหารและสิ่งประดิษฐ์ทางทหารของ กห. ประจำปี ๒๕๖๖  

 timeline 20231208 105359 resize

 

timeline 20231208 105215 resize

 

timeline 20231208 105251 resize

 

timeline 20231208 105409 resize

 

timeline 20231208 105413 resize

 

timeline 20231208 105416 resize

 

timeline 20231208 105423 resize

 

timeline 20231208 105700 resize

 

timeline 20231208 105724 resize

 

 



พีธีมอบรางวัลผลงานวิจัยทางทหารและสิ่งประดิษฐ์ทางทหารของ กห. ประจำปี ๒๕๖๖

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ทางทหารของกระทรวงกลาโหม ประจำปี ๒๕๖๖ 

มีวัตถุประสงค์

1) เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่หน่วยเจ้าของผลงานและผู้บริหาร ที่ให้การสนับสนุนนักวิจัยในสังกัด ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพ

2) เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ทางทหารของนักวิจัยกระทรวงกลาโหมให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกกระทรวงกลาโหม

3) เพื่อส่งเสริม สนับสนุนและผลักดันการนำผลงานวิจัยไปใช้ในกองทัพ รวมทั้งนำเข้าสู่สายการผลิตเป็นอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้ต่อไป ศวอ.ทอ.ส่งผลงานวิจัยทางทหารและสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร เข้าร่วมประกวดผลงานวิจัยทางทหารและสิ่งประดิษฐ์ ทางทหารของ กห. ประจำปี 2566 ได้รับรางวัลชมเชย ชื่อโครงการผลิตสารยับยั้งไฟป่าสูตร ทอ.๑ เพื่อสนับสนุนภารกิจควบคุมไฟป่า และรางวัลสิ่งประดิษฐ์ทางทหารดีเด่น รางวัลชนะเลิศ ชื่อผลงานระบบถุงลมลดแรงกระแทกจากการลงจอดด้วยร่มชูชีพสำหรับอากาศยานไร้คนขับ ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อหน่วยงานที่ได้รับรางวัล พร้อมทั้งกล่าวว่า ผลงานวิจัยและพัฒนา และสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร ที่ได้รับรางวัล เชิดชูเกียรติของกระทรวงกลาโหม เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นประจักษ์ว่าบุคลากรนักวิจัยของกระทรวงกลาโหม เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้น วิจัยพัฒนาจนประสบความสำเร็จ เมื่อวิจัยพัฒนาสำเร็จแล้วต้องมีการนำไปใช้งานได้จริง จึงจะเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพ ในการดำรงสภาพหรือพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของยุทโธปกรณ์ให้สูงขึ้นแล้ว ยังสามารถผลักดันนำไปสู่การผลิตเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทดแทนยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ จะทำให้กระทรวงกลาโหมมีขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ในอนาคตต่อไป